การเรียนล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์
การเรียนรู้ล่าสุดที่เผยแพร่ในวารสารการแพทย์ The Lancet ทำให้เห็นว่ากฎหมายการพนันทั่วทั้งโลกจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนเพื่อปกป้องสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น
งานศึกษาเรียนรู้วิจัยนำโดยทีมจากมหาวิทยาลัยกลาสโกว์และมหาวิทยาลัยเฮลสิงกิ วิเคราะห์ความเคลื่อนไหวทางกฎหมายการพนันระหว่างปี 2018 ถึง 2021 โดยใช้ตัวอย่างเขตอำนาจศาล 33 แห่งในยุยงโรปทวีปเอเชียแอฟริกาและอเมริกา
จากพื้นฐานตามบริบทของการเรียนรู้นักวิจัยเน้นย้ำว่ามากกว่า 80% ของประเทศทั่วโลกได้กำหนดการพนันตามกฎหมายในรูปแบบบางอย่างนอกเหนือจากนี้ 35% ของประเทศได้เปลี่ยนกฎการเดิมพันระหว่างปี 2018 ถึง 2021
น่าสังเกตว่าเขตอำนาจศาลยุโรปได้แนะนำข้อบัญญัติที่เข้มงวดมากขึ้น โดย 43.8% แนะนำข้อ จำกัด ด้านโฆษณาและการตลาดการพนันในช่วงเวลานี้
การศึกษาเล่าเรียนมุ่งเน้นไปที่เอกสารทางกฎหมายจาก 25 ใน 33 เขตอำนาจศาลการพนันที่มีตัวอย่าง โดยเลือกเฉพาะผู้ที่มีนโยบายที่เน้นย้ำสุขภาพและการคุ้มครองคนซื้อ
เกณฑ์ที่เน้นไปที่พฤติกรรมของนักเล่นการพนันแต่ละบุคคล
เกณฑ์ที่มุ่งเน้นไปที่พฤติกรรมของนักพนันแต่ละบุคคล เช่น การยกเว้นตัวเองและการจำกัดการพนันโดยสมัครใจ ซึ่งวัดตามเกณฑ์ทางกฎหมาย ดังเช่นว่า การระบุผู้เล่นที่บังคับ
พบว่าถึงแม้เขตอำนาจศาลการพนันส่วนมากจะยอมรับการพนันที่เกิดอันตรายเป็นปัญหาด้านของสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี แต่พวกเขามีลักษณะท่าทางที่จะกำหนดปัญหาการพนันให้กับนักการพนันแต่ละคนเป็นหลักแทนที่จะดูผลกระทบทางด้านสังคมที่กว้างขึ้น
เมื่อพิจารณาสาเหตุของที่เป็นอันตรายจากการเดิมพันการออกแบบผลิตภัณฑ์การเดิมพันจะปรากฏเป็นผู้มีส่วนสำคัญต่ออันตรายสำหรับการพนันใน 40% ของกรณี และ 28% ของเขตอำนาจศาลยอมรับการตลาดการพนัน
การเรียนยังเน้นย้ำว่า 72% ของตำราทางกฎหมายที่วิเคราะห์ใช้คำว่า “การพนันอย่างรับผิดชอบ” ซึ่งนักวิจัยแนะนำให้เน้นบุคคลมากกว่าผู้ให้บริการการยกเว้นตนเอง (72%) เนื้อหาเกี่ยวกับการรักษา (64%) และข้อ จำกัด โดยสมัครใจ (52%) เป็นมาตรการทั่วๆไปที่นำมาโดยสภานิติบัญญัติที่เน้นไปที่ความรับผิดชอบของแต่ละบุคคล
ข้อสรุปของนักวิจัยท้าทายผู้กำหนดนโยบายให้ก้าวไปเมืองนอกเหนือจากการเน้นไปที่ความรับผิดชอบและการเสพติดของแต่ละบุคคลและยอมรับความสโมสรของปัจจัยองค์ประกอบที่ก่อให้เกิดอันตรายที่เกี่ยวเนื่องกับการพนัน